• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

มูลนิธิไทยรักษ์ป่า มูลนิธิเพื่อการอนุรักษ์ป่าไม้อย่างยั่งยืน ร่วมสร้างจิตสำนึกสงวน &&

Started by kaidee20, Jul 08, 2025, 01:36 AM

Previous topic - Next topic

kaidee20

 มูลนิธิไทยรักษ์ป่า มูลนิธิเพื่อการอนุรักษ์ป่าไม้อย่างยั่งยืน



เกี่ยวกับมูลนิธิไทยรักษาป่า ร่วมสร้างจิตสำนึกอนุรักษ์ ฟื้นฟูระบบนิเวศอย่างยั่งยืน
มูลนิธิไทยรักษาป่า จัดตั้งขึ้นจากเป้าหมายของเอ็กโก กรุ๊ป ที่จะส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมและก็ผืนป่าต้นน้ำลำธารที่สำคัญของประเทศให้เกิดความยืนยง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งสำหรับเพื่อการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูเขาไม่พลอดุลยอำนาจมหาราช บรมทุ่งนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีใจตั้งใจจริงอย่างมากต่อการรักษาป่า

มูลนิธิไทยรักษ์ป่าคาดหวังเป็นส่วนหนึ่งที่จะผลักดันให้เกิดความร่วมแรงร่วมใจสำหรับในการสร้างเครือข่ายการปลูกสามัญสำนึกแห่งความรักษ์ป่า โดยร่วมมือและช่วยเหลือโครงข่ายต่างๆตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วม

แผนการของมูลนิธิไทยรักษ์ป่า

- ด้านการสร้างความแข็งแกร่งโครงข่ายชุมชน
การทำงานระดับเครือข่ายที่ลุ่ม สร้างความเป็นเจ้าของร่วมในทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่าในแถบที่ลุ่มร่วมกัน กำเนิดความแข็งแกร่งสำหรับเพื่อการบริหารจัดแจง อันเป็นการรักษาทรัพยากรป่าดงอย่างยั่งยืน

- ด้านการปลูกสามัญสำนึกเยาวชนรวมทั้งราษฎร
การนำความรู้แล้วก็ความงามของผืนป่ามาเป็นแหล่งศึกษา โดยการพัฒนาทางเพื่อผู้คนเดินทางเข้าหาธรรมชาติ นำมาซึ่งจุดเริ่มของความรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ

- ด้านการอนุรักษ์และรักษาและก็ฟื้นฟู
"คนอยู่ได้ ป่าอยู่ได้" เป็นแนวทางสำคัญของแผนการฯ โดยมุ่งสร้างความเข้มแข็งและก็ส่งเสริมคุณภาพชีวิต  มูลนิธิไทยรักษ์ป่า กับช่วยเหลือให้ชุมชนดูแลรวมทั้งอยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืน

ความสำคัญของป่าต้นน้ำในระบบน้ำฝนรวมทั้งการอนุรักษ์น้ำ

ป่าต้นน้ำ คือป่าในพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลราวๆ 700 เมตรขึ้นไป เป็นแหล่งเกิดของแม่น้ำสายธารที่หล่อเลี้ยงที่ราบลุ่มตอนล่าง รวมทั้งฯลฯทางของน้ำที่สะอาดที่จำเป็นจะต้องต่อทุกชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือพืช

ป่าต้นน้ำทำหน้าที่เปรียบเสมือน "โรงงานผลิตน้ำจืดธรรมชาติ" สถานที่สำหรับทำงานอย่างไม่มีวันหยุด ด้วยกรรมวิธีซับ กักเก็บ รวมทั้งปล่อยน้ำอย่างสม่ำเสมอ ช่วยรักษาความชื้นของระบบนิเวศ และควบคุมสภาพอากาศให้อ่อนโยน



จุดสำคัญของป่าต้นน้ำต่อระบบนิเวศแล้วก็การกักเก็บน้ำธรรมชาติ

ป่าต้นน้ำเป็นพื้นที่ป่าไม้ที่อยู่บริเวณต้นน้ำลำธาร มักอยู่ในพื้นที่สูงหรือแนวเขาที่เป็นต้นตอของแม่น้ำสายหลัก บทบาทสำคัญของป่าต้นน้ำมีหลายประการ ดังต่อไปนี้

1. ขั้นตอนดูดซับรวมทั้งกักเก็บน้ำฝนของป่าต้นน้ำ
เมื่อฝนตกลงมา พืชรวมทั้งต้นไม้ในป่าจะช่วยชะลอการไหลของน้ำฝน เรือนยอดของต้นไม้สามารถดักน้ำฝนได้ถึง 20-30% ส่วนที่เหลือจะไหลลงสู่พื้นดิน โดยระบบรากของพืชและชั้นอินทรียวัตถุบนพื้นป่าจะปฏิบัติหน้าที่เสมือนฟองน้ำธรรมชาติ ดูดซึมน้ำฝนและเบาๆปลดปล่อยออกมาอย่างสม่ำเสมอจากภาพอธิบายจะมีความเห็นว่า ป่าต้นน้ำมีพืชหลายประเภท โดยมีราก ใบไม้ และซากพืชทับถมกันเป็นชั้นดกบนพื้นป่า ช่วยทำให้น้ำฝนซึมลงดินช้าๆแทนที่จะไหลท่วมไปอย่างเร็วจนถึงเกิดน้ำหลากเฉียบพลัน ป่าต้นน้ำที่สมบูรณ์สามารถกักเก็บน้ำได้มากถึง 2-3 เท่าของน้ำฝนที่ตกลงมาในพื้นที่

2. บทบาทของพืชพรรณสำหรับการสงวนน้ำแล้วก็ควบคุมการไหลของน้ำ
พรรณไม้ในป่าต้นน้ำมีความมากมายหลายและแต่ละชนิดมีหน้าที่แตกต่างกันในการสงวนน้ำ
ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ (500 ชนิด): รากแก้วหยั่งลึกช่วยเจาะชั้นดินและก็หิน ทำให้น้ำซึมลงสู่ชั้นที่อยู่ใต้ดินเจริญ
พืชพื้นล่าง (18,000 ชนิด): ช่วยปกคลุมดิน คุ้มครองปกป้องการชะล้างพังทลาย
กล้วยไม้แล้วก็พืชอิงอาศัย (1,000 ประเภท): ช่วยดักจับความชื้นที่อยู่ภายในอากาศ
พืชเครือญาติมอสแล้วก็ไลเคน (2,000 ประเภท): เปรียบเหมือนฟองน้ำขนาดเล็ก สามารถอุ้มน้ำได้มากกว่าน้ำหนักตัวหลายเท่า

3. ระบบน้ำใต้ดินรวมทั้งการเติมน้ำลงสู่ชั้นหินอุ้มน้ำ
น้ำฝนที่ซึมผ่านชั้นดินในป่าต้นน้ำจะถูกกรองให้สะอาดแล้วก็ค่อยๆไหลซึมออกลงสู่ชั้นหินซับน้ำใต้ดิน (Aquifer) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำรองตามธรรมชาติ จากภาพจะมีความเห็นว่ามีชั้นหินอุ้มน้ำใต้ดินที่เก็บกักน้ำไว้ถึง 60,000 ประเภท และก็ยังมีสัตว์ใต้ดินอีกกว่า 350 จำพวกที่อาศัยอยู่ในระบบนิเวศใต้ดินนี้ น้ำที่ถูกเก็บไว้ในชั้นหินอุ้มน้ำจะค่อยๆไหลซึมออกมาเป็นน้ำพุ ตาน้ำ หรือน้ำซับ เปลี่ยนเป็นต้นกำเนิดของลำธารและแม่น้ำ ทำให้มีน้ำไหลตลอดทั้งปีแม้ในฤดูแล้ง

4. ผลพวงจากการสูญเสียพื้นที่ป่าต้นน้ำต่อระบบน้ำธรรมชาติ
การตัดต้นไม้ทำลายป่าไม้ การบุกรุกพื้นที่เพื่อทำสวน และการพัฒนาที่ไม่คำนึงถึงระบบนิเวศ ไม่ดีต่อป่าต้นน้ำและระบบน้ำธรรมชาติอย่างหนัก

5. การปรากฏอุทกภัย-น้ำแล้งจากการสูญเสียป่าต้นน้ำ
เมื่อป่าต้นน้ำถูกทำลาย ความสามารถสำหรับการเก็บกักน้ำจะต่ำลงอย่างยิ่ง น้ำฝนจะไหลหลาก มูลนิธิไทยรักษ์ป่า อย่างเร็วลงสู่พื้นที่ต่ำ ก่อให้เกิดน้ำหลากกะทันหันในช่วงฤดูฝน ตอนที่ในฤดูแล้ง จะเกิดภาวะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง เนื่องด้วยไม่มีการกักเก็บน้ำไว้ในระบบ งา นวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์พบว่า พื้นที่ที่มีป่าต้นน้ำถูกทำลายไปมากกว่า 50% จะกำเนิดน้ำท่วมรุนแรงในฤดูฝนรวมทั้งขาดน้ำในช่วงฤดูแล้งเพิ่มขึ้นถึง 3-5 เท่า เมื่อเทียบกับพื้นที่ที่ยังมีป่าต้นน้ำสมบูรณ์

6. การเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำและผลต่อระบบนิเวศทางเรือ
เว้นเสียแต่ปัญหาปริมาณน้ำแล้ว การสูญเสียป่าต้นน้ำยังมีผลต่อประสิทธิภาพน้ำด้วย น้ำที่ไหลผ่านพื้นที่เกษตรกรรมมักปนเปื้อนสารเคมีและก็ขี้ตะกอนดิน เมื่อไม่มีป่าคอยกรองแล้วก็ดักจับสิ่งเหล่านี้ น้ำในแม่น้ำสายธารจึงมีคุณภาพลดลง ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำและการใช้คุณประโยช์จากมนุษย์ งานเรียนของกรมอุทยานแห่งชาติพบว่า แม่น้ำที่มีต้นน้ำอยู่ในพื้นที่ป่าบริบูรณ์จะมีค่าออกสิเจนละลายน้ำ (DO) สูงขึ้นมากยิ่งกว่า แล้วก็มีจำนวนตะกอนแขวนลอยต่ำกว่าแม่น้ำที่มีต้นน้ำจากพื้นที่ทำการเกษตรหรือพื้นที่ที่ป่าถูกทำลาย

ป่าต้นน้ำเป็นระบบนิเวศที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการอนุรักษ์และรักษาน้ำฝนตามธรรมชาติ มูลนิธิไทยรักษ์ป่า ปฏิบัติหน้าที่เหมือนโรงงานผลิตน้ำจืดที่ซึมซับ เก็บกัก รวมทั้งค่อยๆปล่อยน้ำออกมาอย่างสม่ำเสมอ การสูญเสียพื้นที่ป่าต้นน้ำนำมาซึ่งการก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และก็การขาดแคลุกลนน้ำ

การรักษารวมทั้งฟื้นฟูป่าต้นน้ำจึงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน โดยจะต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วน ทั้งยังภาครัฐ ภาคเอกชน และก็ชุมชนเขตแดน รวมทั้งการนำเทคโนโลยีแล้วก็นวัตกรรมมาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะควร

ในบริบทของความเคลื่อนไหวลักษณะภูมิอากาศ ป่าต้นน้ำยิ่งทวีจุดสำคัญเยอะขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะกลไกธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับระบบนิเวศแล้วก็ทุเลาผลกระทบจากภัยพินาศทางเรือ



การลงทุนสำหรับการรักษาป่าต้นน้ำจึงไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนเพื่อสภาพแวดล้อม แต่เป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงทางเรือ  มูลนิธิไทยรักษ์ป่า และของกินของประเทศในระยะยาว

ขอบคุณสำหรับที่มา https://thairakpa.org/